ใต้ตาคล้ำ มีถุงใต้ตา ริ้วรอยรอบดวงตาฯ อาจารย์หมอนิ้ง เจาะลึกปัญหาใต้ตาพร้อมเผยเคล็ดลับแก้ปัญหาให้ตรงจุด
อาจารย์หมอนิ้ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า จากใจรักษ์คลินิก อธิบายว่า ปัญหารอบดวงตาเป็นเรื่องที่คนไข้เข้ามาปรึกษาผมเป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นบริเวณที่เห็นได้ชัด ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส และดูมีอายุมากกว่าที่เป็นจริง ผิวรอบดวงตามีความบอบบางกว่าบริเวณอื่น การดูแลจึงทำได้ยากและเกิดปัญหาได้ง่ายกว่าบริเวณอื่นเช่นกันครับ
ก่อนไปฟังวิธีแก้ปัญหา “ใต้ตาคล้ำ ร่องน้ำตา ถุงใต้ตา และริ้วรอย” เราต้องรู้สาเหตุที่แท้จริงเสียก่อน หมอได้รวบรวมปัญหาใต้ตาแต่ละแบบ รวมทั้งวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ มาฝากครับ
1.ปัญหาร่องน้ำตา ปัญหาลักษณะนี้แก้ไขได้ง่ายที่สุดครับ เกิดจากชั้นไขมันบริเวณใต้ตา ยุบ ฝ่อตัวลง ทำให้เป็นร่องขึ้นมา การรักษาทำได้โดยการเติมฟิลเลอร์ ผมจะใช้ #เทคนิคพิเศษ เติมฟิลเลอร์บริเวณหน้าแก้ม และใต้โหนกแก้ม เข้าไปช่วยพยุงและดันผิวให้เต็มและกระชับขึ้น โดยไม่ต้องเติมฟิลเลอร์บริเวณใต้ดวงตา เพียงเท่านี้ก็ช่วยแก้ไขปัญหาได้แล้วครับ
เทคนิคพิเศษของผม ผลลัพธ์ที่ได้ คือ เป็นธรรมชาติ ผิวใต้ตาเต็มตื้นและเรียบเนียน ไม่เห็นเป็นก้อน แม้จะใช้ฟิลเลอร์เนื้อแน่นในการฉีด ข้อดีของการใช้ฟิลเลอร์เนื้อแน่นทำให้อยู่ทรงได้นานกว่าฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม หลังเติมผิวจะกลับมาเรียบเนียน และความหมองคล้ำจะจางหายไปอีกด้วย
2.ปัญหาถุงใต้ตา เป็นปัญหาที่พบบ่อยทั้งในคนที่อายุมากและอายุน้อย บางคนเกิดจากกรรมพันธุ์โครงสร้างใบหน้า สาเหตุ คือ ไขมันบริเวณใต้ตามากขึ้น แต่กระดูกหน้าแก้มและไขมันหน้าแก้มยุบตัวลง รวมทั้งคอลลาเจนและอีลาสตินที่มีหน้าที่ยกพยุงผิวหนังใต้ตาก็อ่อนแอลงด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นถุงใต้ตาขึ้น สำหรับปัญหาถุงใต้ตา ผมได้เขียน วิธีการรักษาแบบต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกของคนไข้ครับ
– การเติมฟิลเลอร์ เข้าไปรองรับบริเวณใต้ถุง สำหรับวิธีการนี้ต้องใช้ความชำนาญเป็นอย่างมาก เพราะหากเติมไม่ดี ไปเติมบริเวณถุงใต้ตา จะกลายเป็นว่ายิ่งบวม และมีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะฉะนั้นในทุกเคสที่มารักษาถุงใต้ตา ผมต้องใช้เวลาวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าของคนไข้อย่างละเอียดทุกครั้งก่อนเติม เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างดีที่สุดครับ
– การใช้เครื่อง Ultraformer III ยิงคลื่นพลังงานเข้าไปในผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน ในการยกพยุงผิวบริเวณใต้ตาให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น เมื่อผิวยกกระชับ ปัญหาถุงใต้ตาก็จะดีขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น สำหรับใครที่มีปัญหาถุงใต้ตาขนาดใหญ่มาก หมอแนะนำว่าต้องผ่าตัดถึงจะหายขาดครับ
3. ปัญหากระดูกหน้าแก้มยุบปัญหาใต้ตาเกิดขึ้นจากกระดูกหน้าแก้มหรือไขมันบริเวณหน้าแก้มฝ่อลง ซึ่งมีสาเหตุมาจากอายุมากขึ้น สำหรับในเคสที่มีปัญหาแบบนี้ ผมจะใช้การเติมฟิลเลอร์เพื่อแก้ปัญหา โดยใช้ #เทคนิคพิเศษ Triology Lifting เป็นการเติมฟิลเลอร์เข้าไปลึกถึงชั้นกระดูก เพื่อให้เนื้อฟิลเลอร์เข้าไปซัพพอร์ตบริเวณหน้าแก้มให้ยกขึ้น การฉีดแบบนี้นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาได้แล้ว ยังเป็นการปรับโครงสร้างใบหน้าส่วนกลางให้ดูบาลานซ์ขึ้นด้วย ร่องแก้มจะดูตื้นขึ้น ใต้ตาดูสดใส ใบหน้าโดยรวมดูอ่อนเยาว์ และเด็กลงด้วยครับ
4.ปัญหาผิวใต้ตาคล้ำ เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสี จำเป็นต้องเลือกฟิลเลอร์ที่มีเนื้อบางเบา เนื้อละเอียดเป็นพิเศษและอาศัยความประณีตในการวางฟิลเลอร์ โดยใช้เทคนิค Microdot Microbolus เพราะถ้าเติมฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง หรือใช้มากเกินไป จะทำให้เห็นเป็นก้อนและทำให้ใต้ตาดูหมองคล้ำยิ่งกว่าเดิม หรือสามารถรักษาได้โดยการเน้นบำรุงผิวใต้ตาด้วยกลุ่มยาทาหรือ Skin Booster สูตรต่างๆ เพื่อทำให้ใต้ตากระจ่างใสได้เช่นกัน
5. ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตาเกิดจากวัยที่เพิ่มขึ้นหรือบางเคสมีปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น จึงทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น และเกิดเป็นริ้วรอยเล็กๆ (Fine Line) ขึ้นได้ การรักษาสามารถทำได้หลายวิธีเลยครับ
– การใช้ Bo-tu-linum toxin เพื่อยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยจะช่วยคลายริ้วรอยบริเวณหางตาหรือที่หลายๆ คนเรียกว่าตีนกา พอตัวยาออกฤทธิ์เต็มที่ ริ้วรอยก็จะค่อยๆ หายไป
–การยกกระชับด้วยเครื่อง Ultraformer III โดยเครื่องจะส่งพลังงานเข้าไปกระตุ้นการสร้างเส้นใยอิลาสติน และคอลลาเจนใต้ผิว ผิวจะกระชับขึ้น ริ้วรอยตื้นขึ้นครับ
–Skin booster การรักษาด้วยกลุ่มสกินบูสเตอร์สูตรต่างๆ ที่เข้าไปบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว สามารถช่วยลดปัญหาเรื่องริ้วรอยเล็กๆ บริเวณรอบดวงตาได้เช่นกัน
–การใช้สกินแคร์กลุ่ม Moisturizer เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เมื่อผิวชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ปัญหาริ้วรอยก็จะลดลง
ปัญหาเรื่องใต้ตามีความหลากหลาย การแก้ไขปัญหาต้องเลือกใช้วิธีที่แตกต่างกันออกไป ในแต่ละบุคคล เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะการเติมฟิลเลอร์ ถึงแม้ว่าจะใช้ฟิลเลอร์ตัวเดียวกัน แต่ถ้าแพทย์ไม่เข้าใจปัญหาของคนไข้ ฉีดตัวยาผิดตำแหน่งหรือคำนวณปริมาณตัวยาไม่แม่นยำ ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้คนไข้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีก
ท้ายนี้ผมขอฝาก เรื่องการเลือกฉีดฟิลเลอร์ อย่าเน้นที่จำนวนซีซีหรือราคาเป็นสำคัญนะครับ เพราะสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ความชำนาญ ฝีมือแพทย์ และการเข้าใจในโครงสร้างปัญหาของแต่ละเคส ซึ่งสำคัญมากเช่นกันครับ ใครมีปัญหาใต้ตาแบบไหน สามารถเข้ามาปรึกษาผม และทีมแพทย์ทุกคนที่ใจรักษ์คลินิกได้ทั้ง 3 สาขา
ส่วนใครที่มีคำถามเกี่ยวกับความสวยความงามและสุขภาพ สามารถสอบถามเข้ามาได้ ผมจะเขียนบทความดีๆ ออกมาให้อ่านกันเรื่อยๆ ครับ อาจารย์หมอนิ้งกล่าวทิ้งท้าย